ในชีวิตการทำงาน เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งย่อมมีอะไรที่ถึงจุดเปลี่ยนแปลง คนทำหน้าที่ครูหรือทำหน้าที่อื่น ๆ ในโรงเรียนก็เช่นกัน อาจจะรู้สึกว่า หมดไฟ ขาดพลังกระตือรือร้น หรือเหนื่อยมากพอแล้ว ไม่อยากทำงานตรงนี้แล้ว หรืออยากไปทำหน้าที่อื่น ๆ
ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรที่ในวันใดวันหนึ่ง เราจะมีความรู้สึกและคิดไม่อยากทำงานตรงจุดปัจจุบันแล้ว แต่เราก็ต้องหาทางจัดการกับมัน
เมื่อเราไม่ต้องการอยู่ทำงานเดิมแล้ว มีงานอื่นไหมในโรงเรียนที่เราอยากทำและสามารถทำได้ เรื่องนี้เราควรรีบเข้าพบและพูดคุยกับผู้บริหารโรงเรียนเลย เล่าให้ฟังว่า เพราะอะไร เราจึงอยากจะเปลี่ยนงาน และอยากทำอะไร ด้วยเหตุผลอะไร เราพูดคุยได้ และต้องพร้อมรับฟังเหตุและผลจากทางผู้บริหารด้วยเช่นกันว่า เขาเห็นว่าอย่างไร
เป็นธรรมดาว่า คนเป็นผู้บริหารโรงเรียนจะผ่านประสบการณ์มามาก ทั้งเรื่องงานในโรงเรียนและชีวิตส่วนตัว รวมถึงพวกเขามักจะมีมุมมองที่ละเอียด ลึกซึ้งและรอบด้านมากกว่าเราได้
การพูดคุย เราอาจไม่ได้ผลลัพธ์แบบที่เราต้องการ แต่อย่างน้อยเราได้รับรู้ว่า สิ่งที่เราคิดและรู้สึกเป็นอย่างไร คนอื่น ๆ โดยเฉพาะผู้บริหาร มองอย่างไร ไม่ถือว่า มีใครผิดหรือถูก แต่ต้องยอมรับว่า ณ เวลานั้น เหตุผลใดเหมาะสมมากกว่า เราก็ต้องพร้อมยอมรับมัน
ถ้าเข้าใจและยอมรับเหตุผลของผู้บริหารได้ เราต้องปรับที่ความรู้สึกและความคิดของเราเช่นกัน การปล่อยวันเวลาให้ผ่านไปสักระยะหนึ่งจะช่วยให้มีความรู้สึกที่ดีขึ้นได้ อย่าลืมว่า อย่างไรเสีย การทำงานในสิ่งที่เราเก่ง ถนัดและชำนาญอยู่แล้ว แม้จะมีความเบื่อหรือเหนื่อยบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เราจะรับมือกับมัน
ทำงานที่เราถนัดนี้ต่อไปดีกว่า พร้อม ๆ กับปรับระดับจิต เพ่งมองไปที่เด็ก ๆ นักเรียนวัยกำลังน่ารัก พวกเขากำลังตื่นเต้นกับชีวิตและโลก พวกเขากำลังเรียนรู้และกำลังเจริญเติบโต คุณภาพของเด็ก จะเกิดขึ้นได้จากฝีมือการเพาะบ่ม การขัดเกลา การถ่ายทอดสรรพวิชาและประสบการณ์จากเราและเพื่อนครูรวมถึงบุคลากรด้านอื่น ๆ ในโรงเรียนนั่นเอง
สคูลจ๊อบ ขอให้กำลังใจคนทำงานโรงเรียนทุกคน และเชื่อมั่นเสมอว่า ตัวคุณนั้นเก่งพอ มีพลังความสามารถ และจะผ่านทุกอุปสรรคไปได้เสมอ
www.schooljob.in.th