คนหางานเมื่อสมัครงานหรือฝากใบสมัครงานกับสคูลจ๊อบแล้ว แต่ไม่ได้งานทำสักที บางทีก็อาจทำให้รู้สึกท้อแท้ได้ แต่เรื่องแบบนี้ เราต้องมองตามความเป็นจริง ทำไมสมัครงานแล้วไม่ได้งานทำ ลองดูสิ่งเหล่านี้
1. การกรอกข้อมูลในเว็บสคูลจ๊อบของผู้สมัครงานเองครบถ้วนถูกต้องหรือไม่
มีหลายกรณีที่เบอร์มือถือ ทั้งเครือข่าย AIS TrueMove ที่เรากรอกไปในฟอร์มประวัติคนหางานนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่ได้เติมเงินไว้จึงถูกตัดบริการไปแล้ว โรงเรียนที่สนใจอยากเชิญเราไปร่วมงานด้วยพยายามโทรติดต่อเราแล้ว แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จึงทำให้เราไม่ได้รับติดต่อนัดหมายไปสัมภาษณ์ นี่ก็มีส่วนทำให้เราพลาดโอกาสได้งานทำ
2. อีเมล์ที่กรอกไว้ ใช้งานไม่ได้
มีอยู่บ่อยครั้งที่อีเมล์ที่เรากรอกไปนั้น ใช้งานไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เข้าไปใช้งานอีเมล์นั้นนานเกิน 3 เดือน ผู้ให้บริการอีเมล์ เช่น Hotmail Gmail อาจระงับบัญชีอีเมล์ของเราก็ได้ อีเมล์ของเราจึงไม่รับสามารถรับข้อความอีเมล์จากใครได้ เมื่อโรงเรียนส่งอีเมล์ไปหา จึงไปไม่ถึง นี่ก็มีส่วนทำให้เราไม่ได้งานทำ
3. ความน่าสนใจของข้อมูลประวัติของเราเอง
โดยเฉพาะประวัติการศึกษา เกรดที่จบ กิจกรรมที่เคยทำระหว่างเรียน หลักสูตรอบรมที่เคยผ่านมา ความสามารถพิเศษทางคอมพิวเตอร์ ดนตรีไทย-สากล และความสามารถพิเศษต่าง ๆ เราควรกรอกให้ครบถ้วนและตรงกับความเป็นจริง
สิ่งเหล่านี้มีส่วนมากในการได้งานทำเร็ว ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เราดูโดดเด่นสะดุดตา ชวนให้โรงเรียนอยากเชิญเราไปร่วมงานด้วย ถ้าข้อมูลของเราตรงนี้ไม่โดดเด่นพอ เราก็ต้องทำใจไว้บ้าง คือโรงเรียนอาจจะสนใจเราน้อย เพราะโรงเรียนย่อมจะต้องการคนทำงานที่มีคุณสมบัติดีที่สุดและพร้อมที่สุดไปร่วมงาน ถ้ารับไปแล้ว ต้องไปจัดอบรมใหม่ ไปสอนกันใหม่ บางทีโรงเรียนก็รู้สึกเหนื่อย เราต้องเข้าใจโรงเรียนด้วย ดังนั้น อะไรที่เราเก่งจริง ทำได้จริง มีความสามารถจริง เราควรกรอกไปให้ครบถ้วนเลย และระหว่างรองานอยู่ มีหลักสูตรอบรมระยะสั้นอะไรที่ช่วยพัฒนาศักยภาพการทำงานของเรา ก็ควรไปสมัครอบรมเป็นระยะ ๆ เพื่อเพิ่มโปรไฟล์เราให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
4. มุมมองของเราเองต่อประเด็นทางสังคมไทย การศึกษาไทย (ท้ายแบบฟอร์มกรกอข้อมูลประวัติในเว็บไซต์สคูลจ๊อบ)
แบบฟอร์มให้คนหางานแสดงความรู้ ความคิดแห็นต่อประเด็นที่เรากำหนดไว้ท้ายแบบฟอร์มกรอกข้อมูล มีความสำคัญมากเช่นกัน ข้อมูลตรงนี้ควรมาจากประมวลความคิดความรู้ของเราเองล้วน ๆ ไม่ควรไปคัดลอกของใครอื่นมา เพราะถ้าเราไปคัดลอกมา ทางโรงเรียนสามารถเช็คได้ ไม่ยาก
ข้อมูลตรงนี้จะบ่งบอกว่า เราเข้าใจชีวิต เข้าใจโลก เข้าใจสังคมมากน้อยเพียงไร อย่าลืมว่า งานสอนหนังสือ งานทางการศึกษา ต้องการคนที่ชัดเจนในชีวิต ในโลก และสังคม ไม่ใช่คนที่คลุมเครือไม่แน่นอน ดังนั้น ถ้าเราไม่ได้กรอกข้อมูลตรงนี้ไว้ ควรรีบไปกรอกให้ครบถ้วนและทำน่าสนใจจะดีมาก มันจะเพิ่มโอกาสให้เราได้งานทำ
5. หลังฝากประวัติแล้ว ไม่มาเว็บสคูลจ๊อบ ไม่เข้าระบบมาดูข้อมูลเลยว่า โรงเรียนไหนนัดสัมภาษณ์เราบ้าง เพราะจริง ๆ แล้วอาจมีโรงเรียนหลายแห่งสนใจเราและนัดสัมภาษณ์แล้ว แต่คนหางานไม่สนใจมาเปิดดูเอง จึงทำให้พลาดงานได้เช่นกัน
6. ไม่เข้าระบบและไม่คลิกสมัครงานตำแหน่งที่ตนเองสนใจ
คนหางานหลายคนคิดว่า ตัวเองเก่ง มีความโดดเด่นมากพอ รอให้โรงเรียนติดต่ออย่างเดียว เราแค่กรอก ๆ ข้อมูลไว้ก็พอ ไม่ต้องไปสมัครงานกับโรงเรียนใดก็ได้ การคิดแบบนี้ บางทีอาจจะเป็นการเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ถ้าเราอยากทำงานตำแหน่งอะไร ที่โรงเรียนไหน เราควรแสดงความสนใจของเราออกมาก่อนจะดีที่สุด คือมาเว็บไซต์สคูลจ๊อบแล้วเข้าระบบ แล้วไปคลิกสมัคงานตำแหน่งงานนั้น ๆ และควรโทรไปแจ้งทางโรงเรียนด้วยก็ยิ่งดีว่า เราได้สมัครงานตำแหน่งนั้น ๆ ที่โรงเรียนประกาศรับสมัครไว้ เพื่อทางเจ้าหน้าที่โรงเรียนจะได้กระตือรือร้นดูประวัติของเราและนัดสัมภาษณ์เรา
อย่าลืมว่า การที่เรากระตือรือร้นติดต่อไปทางโรงเรียนก่อนนั้น คะแนนนิยมของเราจะเพิ่มมากขึ้น เพราะโรงเรียนทุกแห่งต้องการคนที่อยากทำงานกับโรงเรียนจริง ๆ ไม่ใช่ต้องการคนที่ไม่แน่นอน หรือคนจำพวกสมัครงานเล่น ๆ
ลองดูอีกครั้ง ถ้าเราอยากทำงาน อยากได้งานทำเร็ว ๆ เราควรทำอย่างไร การนอนรอให้โรงเรียนติดต่อมา บางทีอาจเป็นความประมาทเกินไปและสายเกินไปก็ได้ ดังนั้น ต้องรีบเข้าระบบแล้วสมัครงานที่เราสนใจ แล้วโทรติดต่อโรงเรียนเลย จะดีกว่า
สคูลจ๊อบ แหล่งข้อมูลสำหรับคนอยากทำงานโรงเรียน
SchoolJob สมัครงานโรงเรียน หางานโรงเรียน รับสมัครครู รับสมัครอาจารย์